 |
| ได้ ของขวัญปีใหม่ แบบนี้มีเฮกันถ้วนหน้า!! |
พล.ต.ท.ศานิตย์ มหถาวร รักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจนครบาล(รรท.ผบช.น.) กล่าวว่า จากที่สน.ลำผักชีได้ดำเนินการโครงการล้างใบสั่งปรับ 100 บาทไปนั้นตนเห็นว่าเป็นโครงการที่ดีดังนั้นตนจึงได้สั่งการให้กองบังคับการ ตำรวจนครบาล1-9(บก.น.1-9) และกองบังคับการตำรวจราจร(บก.จร.)รวมทั้ง 88 สน.ทั่วพื้นที่กรุงเทพฯดำเนินการตามโครงการดังกล่าวเพื่อให้แนวทางปฏิบัติ เป็นไปในทิศทางเดียวกันทุกกองบังคับการ และเพื่อมอบเป็น ของขวัญปีใหม่ ให้แก่ประชาชน อีกทั้งโครงการล้างใบสั่งยังจะเป็นการป้องกันไม่ให้ประชาชนไปก่อความผิดซ้ำ ซ้อนในกรณีที่ไม่ใบอนุญาตขับขี่และไปแจ้งความเท็จเพราะบางคนไปแจ้งความ เนื่องจากรู้เท่าไม่ถึงการซึ่งก็จะทำให้มีโทษสูงถึงจำคุกถึง 2 ปี อีกทั้งในกรณีที่ประชาชนเดินทางกลับบ้านจะได้มีเอกสารให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบ กรณีที่เจ้าน้าที่เรียกตรวจด้วยเนื่องจากช่วงเทศกาลปีใหม่จะต้องมีการตรวจ สอบอย่างเข้มข้นเพื่อป้องกันปัญหาอาชญากรรมหรือปัญหาอื่นๆที่จะตามมา ทั้งนี้ได้สั่งการให้ทุกบก.น.เริ่มปฏิบัติไปแล้วโดยประชาชนที่ ทำผิดกฎจราจรและถูกยึดใบขับขี่สามารถติดต่อได้ที่สน.พื้นที่ที่ถูกจับได้ ตั้งแต่วันที่ 21 ธ.ค.58-15ม.ค. 59 เป็นระยะเวลา 21 วัน แต่หากไม่มาติดต่อในระยะเวลาดังกล่าวก็จะต้องจ่ายค่าปรับในอัตราที่กระทำความผิดหรือขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของเจ้าหน้าที่เปรียบเทียบปรับ
พล.ต.ท.ศานิตย์กล่าวต่อ ว่า สำหรับโครงการล้างใบสั่งปรับ 100 บาท จะดำเนินการได้เฉพาะในความผิดที่กำหนดโทษปรับไว้ไม่เกิน 500 บาท ซึ่งปกติเจ้าหน้าที่ตำรวจจะปรับ 200 บาท อาทิ ไม่สวมหมวกนิรภัย อุปกรณ์ส่วนควบไม่ครบ ไม่พกใบอนุญาตขับขี่ ไม่คาดเข็มขัดนิรภัย ซึ่งข้อหาเหล่านี้เป็นข้อหาที่ไม่ได้ก่อให้เกิดความเดือดร้อนแก่ส่วนรวมซึ่งมีผู้ที่ไม่มาจ่ายค่าปรับประมาณ20เปอร์เซนต์ของใบสั่งทั้งหมด ส่วนในข้อหาที่สร้างความเดือดต่อผู้อื่นส่งผลกระทบด้านการจราจรไม่ว่าจะเป็น จอดรถกีดขวาง จอดรถในที่ห้ามจอด ขับรถบนทางเท้า นำรถที่หย่อนสมรรถนะมาขับ เมาแล้วขับ ข้อหาเหล่านี้ก็จะต้องถูกปรับและดำเนินคดีในอัตราโทษสูงสุดเช่นเดิม อย่างไรก็ตามที่ยังมีนักกฎหมายเป็นห่วงและโต้แย้งว่าหากดำเนินการไปแล้ว ประชาชนอาจจะไม่เกรงกลัวและกระทำผิดกฎจราจรอย่างต่อเนื่อง แต่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้มีการพิจารณาตามบทลงโทษอยู่แล้ว ทั้งนี้ทางเจ้าหน้าที่เองก็ไม่ได้มุ่งหวังในเงินรางวัลนำจับเพียงอย่างเดียว แต่มีจุดประสงค์เพื่อเป็นการป้องกันประชาชนเท่านั้น
อ่านเพิ่มเติมได้ที่
http://www.dailynews.co.th/bangkok/368729
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น